1. ความรู้เกี่ยวกับเชไฮฟอง
วัฒนธรรมอาหารของไฮฟองมีเสน่ห์เฉพาะตัวเสมอ โดยเฉพาะเชไฮฟองซึ่งเป็นภาพสะท้อนที่มีชีวิตชีวา แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์และจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมของผู้คนแห่งเมืองท่า ไม่เหมือนกับขนมหวานถั่วดำของฮานอย หรือเชซางซาฮัตลูที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ เชไฮฟองสร้างความประทับใจที่แตกต่างด้วยการผสมผสานอันชาญฉลาดระหว่างรสชาติดั้งเดิมกับองค์ประกอบที่ทันสมัย เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับนักชิม
ส่วนผสมในเชไฮฟองส่วนใหญ่คัดเลือกจากแหล่งอาหารสดใหม่ในท้องถิ่น เช่น มะพร้าวน้ำหอมอ่อน ถั่วเขียว มันเทศ เมล็ดบัว และส้มโอเขียว ทุกขั้นตอนการปรุงให้ความสำคัญเพื่อให้ได้รสชาติที่สมดุล ความหวานละมุนผสมผสานกับความสดชื่นตามธรรมชาติ ร้านค้ามักสร้างสรรค์ทางเลือกเพิ่มเติมมากมาย เช่น มะพร้าวหั่นเต๋า ไข่มุกหลากสี วุ้น พุดดิ้งเนื้อเนียนนุ่ม และโมจิสไตล์ญี่ปุ่น
บรรยากาศของร้านขนมหวานก็มีความหลากหลายเช่นกัน ตั้งแต่ร้านขนมหวานริมทางที่โปร่งโล่งและเป็นกันเอง ไปจนถึงร้านที่มีสไตล์การตกแต่งที่ทันสมัยและดูอ่อนเยาว์ ดึงดูดคนหนุ่มสาวจำนวนมากมาสัมผัสและถ่ายรูป ความกลมกลืนระหว่างความเป็นดั้งเดิมและความทันสมัยช่วยให้เชไฮฟองกลายเป็นจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ในภูมิทัศน์อาหารของเมือง
ด้วยความเข้าถึงง่ายและความเหมาะสมกับผู้คนหลากหลายกลุ่ม เชไฮฟองจึงเอาชนะใจได้ทั้งผู้สูงอายุ เด็กๆ และคนหนุ่มสาว เมนูที่หลากหลายพร้อมขนมหวานทุกประเภทตอบสนองรสนิยมที่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกัน ราคาที่สมเหตุสมผลก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ขนมหวานชนิดนี้เป็นที่ชื่นชอบทั่วทั้งเมือง ตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงนักท่องเที่ยว

ขนมหวานไห่ฟงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว (ที่มา: รวบรวม)
เมื่อได้ลิ้มลอง ขนมหวานไห่ฟง ผู้ทานไม่ได้เพียงมองหาความสดชื่นหรือของว่างธรรมดา แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ร้านขนมหวานมักกลายเป็นสถานที่นัดพบของเพื่อนฝูงและครอบครัวหลังเลิกเรียนหรือทำงานหนัก ที่นี่ นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้สัมผัสกับชีวิตประจำวันของเมืองท่า สัมผัสการผสมผสานระหว่างประเพณีอันยาวนานกับแนวคิดใหม่ๆ ในทุกช้อนของขนมหวานอันอ่อนหวาน
2. ร้านขนมหวานไห่ฟงชื่อดังที่ควรลอง
2.1. ขนมหวานฮังเบ
ตั้งอยู่บนถนนเหงียนกงจู เลขที่ 46 เขตเลอจาน ขนมหวานฮังเบเป็นที่อยู่คุ้นเคยที่หลายคนชื่นชอบขนมหวานไห่ฟงเลือกใช้ ขนมหวานมะพร้าวนมสดที่นี่ปรุงจากมะพร้าวสดนุ่ม ผสมผสานกับกะทิ ทำให้ได้รสหวานพอดีและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์
ขนมเขือกขุกบัคที่น่าสนใจที่ฮังเบ (ที่มา: รวบรวม)
นอกจากนี้ เฉ่สวายพุดดิ้ง (ขนมพุดดิ้งมะม่วง) ยังเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ด้วยมะม่วงสดฉ่ำที่ผสมผสานกับพุดดิ้งเนื้อเนียนนุ่ม ให้ความรู้สึกละลายในปากทันทีที่ได้ลิ้มลอง เฉ่เขือกบัคที่นี่มีหลายรสชาติที่แตกต่างกัน ตั้งแต่รสชาติดั้งเดิมไปจนถึงมัทฉะและโกโก้ นำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า มันหนึบ (เผือกหนึบ) ที่ร้านทำเองยังคงรสชาติดั้งเดิม ไม่ใช้สีผสมอาหารหรือสารปรุงแต่งสังเคราะห์
ราคาขนมเฉ่ที่ร้านเฉ่ฮังเบอยู่ในช่วงประมาณ 15,000 – 35,000 ดองต่อถ้วย เหมาะสมกับคุณภาพและปริมาณขนมที่เสิร์ฟ ลูกค้าสามารถลองผสมเฉ่เดือหน่อน (ขนมเนื้อมะพร้าวอ่อน) กับเฉ่สวายพุดดิ้ง เพื่อสัมผัสความหลากหลาย บรรยากาศร้านสะอาด โปร่งสบาย บริการรวดเร็ว ทั้งสำหรับลูกค้าที่นั่งทานที่ร้านหรือซื้อกลับบ้าน
2.2. เกาะเฉ่
เกาะเฉ่ ตั้งอยู่ที่ 122 ถนนฟานดังหลิว ตำบลบัคเซิน โดดเด่นด้วยสไตล์ที่ทันสมัย กลายเป็นสถานที่ที่วัยรุ่นหลายคนเลือกเมื่อต้องการลิ้มลอง เฉ่ไห่ฟอง ในสไตล์โมเดิร์น ร้านได้รับการออกแบบอย่างมีชีวิตชีวา มีมุมสวยงามมากมายสำหรับถ่ายรูป สร้างสภาวะที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเก็บภาพความทรงจำกับเพื่อนๆ
ขนมหวานน่าทานที่ไฮฟอง (ที่มา: รวบรวม)
เมนูที่นี่มีความหลากหลายกับขนมโมจิหลากสีสันน่าดึงดูด แต่ละชิ้นนุ่มละมุน ไส้หวานมันแตกต่างกันไป ขนมมันม่วงใช้มันม่วงจากดาลัด คงสีสันธรรมชาติและรสชาติหวานมันอันเป็นเอกลักษณ์ ขนมมะพร้าวน้ำหอมยังมีการปรับเปลี่ยนด้วยท็อปปิ้ง เช่น วุ้นว่านหางจระเข้ ไข่มุกขาว พุดดิ้งคัสตาร์ด สร้างความรู้สึกแปลกใหม่
ร้านมักจะคึกคักในช่วงเย็น ประมาณหลัง 18:00 น. เมื่อนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานแวะมา หากต้องการหลีกเลี่ยงความแออัด ควรมาถึงก่อน 17:30 น. หรือหลัง 20:00 น. เมื่อลูกค้าเริ่มน้อยลง ราคาขนมหวานที่นี่ตั้งแต่ 25,000 – 35,000 ดอง สมน้ำสมเนื้อกับคุณภาพและการใส่ใจในการจัดวาง
2.3. ขนมหวานของโกฮien
ที่ 773 ตรันตัตวัน ร้านขนมหวานของโกฮien มอบประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยขนมหวานไฮฟองที่คงรสชาติดั้งเดิมไว้ ร้านนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติขนมหวานแบบโบราณ ด้วยกระบวนการปรุงที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
ขนมบาบาปรุงจากถั่วเขียวและเส้นลอดเหนียวนุ่ม ผสมผสานกับกะทิ สร้างรสชาติเข้มข้นที่ยากจะลืมเลือน ขนมส้มโออันเป็นเอกลักษณ์ด้วยเนื้อส้มโอเขียวกรอบ น้ำตาลโตนดเย็นสดชื่น มอบความรู้สึกสบายตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลิ้มลอง ขนมถั่วแดง, ขนมเมล็ดบัว ปรุงสุกพอดี คงรสชาติดั้งเดิมของถั่วแต่ละชนิด เซืองซา วุ้นสาหร่ายใสๆ กรุบกรอบเบาๆ ก็สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับร้าน
บรรยากาศร้านเรียบง่าย ชวนให้นึกถึงร้านขนมหวานแบบบ้านๆ ในสมัยก่อน แต่ยังคงรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ร้านเปิดตั้งแต่ 6:00 น. - 22:00 น. ด้วยราคาที่เหมาะสมกับนักเรียน นักศึกษา เมื่อมาที่นี่ อย่าลืมลองชิมขนมส้มโอและขนมเมล็ดบัว เพื่อสัมผัสรสชาติดั้งเดิมของขนมหวานไฮฟองอย่างเต็มที่
2.4. ขนมมะพร้าวดัดเซียงเบี้ยว
ตั้งอยู่ตรงข้าม 108 ลัชเทรย์ ขนมมะพร้าวดัดเซียงเบี้ยว มักถูกกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของขนมหวานไฮฟอง ขนมมะพร้าวดัดที่นี่โดดเด่นด้วยเส้นมะพร้าวสดที่นุ่มหนึบ เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งไส นมข้นหวาน และกะทิหอมมัน
เฉ่ดัวดัม (Che dua dam) ของ Hien Beo หอมมัน (แหล่งที่มา: VnExpress)
สิ่งที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบคือสามารถเลือกท็อปปิ้งเพิ่มเติมได้ เช่น มะพร้าวอ่อน, ไข่มุกดำ, วุ้นหลากสี, พุดดิ้งคัสตาร์ด ตามความชอบ ด้วยเหตุนี้ ขนมหวานแต่ละส่วนจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะสมกับรสชาติของแต่ละคน
ราคาขนมหวานไฮฟอง (Hai Phong) ที่ร้านตั้งแต่ 20,000 – 30,000 ดอง ขึ้นอยู่กับจำนวนท็อปปิ้งที่ลูกค้าสั่งเพิ่ม ร้านรองรับการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันจัดส่ง เมื่อซื้อกลับบ้านหรือจัดส่งระยะไกล ลูกค้าสามารถขอให้ร้านบรรจุท็อปปิ้งและน้ำแข็งแยกต่างหากได้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะคงความอร่อยและรสชาติดั้งเดิมไว้ได้
3. ขนมหวานไฮฟอง (Hai Phong) หลากหลายชนิด
3.1. รสชาติขนมหวานแบบดั้งเดิม คงไว้ซึ่งแก่นแท้แห่งอดีต
ขนมหวานไฮฟอง (Hai Phong) แบบดั้งเดิมเป็นที่นิยมของผู้คนมากมาย ด้วยการคงไว้ซึ่งรสชาติดั้งเดิมอย่างสมบูรณ์และร่องรอยแห่งกาลเวลา ขนมถั่วเขียวใช้ถั่วเขียวไฮเซือง (Hai Duong) ให้รสชาติหวานมันตามธรรมชาติ ผสมผสานกับน้ำตาลโตนดที่สดชื่น ขนมเมล็ดบัวทำจากเมล็ดบัวสดพันธุ์ 'บั๊กเดี๊ยบ' (Bach Diep) เมล็ดบัวแต่ละเม็ดถูกเอาแกนเขียวออกอย่างระมัดระวัง เพื่อคงไว้ซึ่งรสหวานอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์
ขนมเปลือกส้มโอเลือกใช้เปลือกส้มโอเขียวสด ผ่านการแปรรูปอย่างชำนาญเพื่อกำจัดรสขม คงไว้ซึ่งรสหวานกรอบสดชื่น ขนมถั่วแดง, ซางซา, ข้าวโพด ล้วนใช้วัตถุดิบสดใหม่ จำกัดการใช้สารปรุงแต่ง ทำให้ขนมหวานปลอดภัยและเข้มข้นด้วยรสชาติบ้านเกิด
จุดเด่นของขนมหวานไฮฟอง (Hai Phong) แบบดั้งเดิมคือการคงไว้ซึ่งรสหวานที่กลมกล่อมเสมอ ไม่จัดจ้านเกินไป และคงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบแต่ละชนิด วุ้น, บั๋ญหลอต (banh lot) ล้วนทำเองที่ร้าน รับประกันรสชาติสดใหม่ ตรงตามเกณฑ์ความปลอดภัยต่อสุขภาพ
3.2. การประยุกต์ใหม่ๆ ในขนมหวานไฮฟอง (Hai Phong)
นอกเหนือจากขนมหวานแบบดั้งเดิม การสร้างสรรค์ในการปรุงช่วยให้ขนมหวานไฮฟอง (Hai Phong) มีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ เฉ่ดัวดัม (Che dua dam) ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่มีชื่อเสียงในหมู่คนหนุ่มสาวทั่วประเทศ นอกจากนี้ ช่างฝีมือยังได้สร้างสรรค์เพิ่ม เฉ่คุกบั๊ก (Che khuc bach) ผสมผสานกับผลไม้สดหลายชนิด เช่น มะม่วง, สตรอว์เบอร์รี, องุ่นเขียว เพื่อสร้างสรรค์ขนมหวานที่น่าดึงดูดทั้งสีสันและรสชาติ
ขนมโมจิสายรุ้งทำจากลูกโมจิหลากสี ไส้ถั่วเขียว, ถั่วแดง หรือครีมสด สไตล์ญี่ปุ่น แต่เข้ากันได้ดีกับรสชาติเวียดนาม พุดดิ้งก็มีหลากหลายรสชาติ ตั้งแต่คาราเมล, วานิลลา ไปจนถึงมัทฉะ, ช็อกโกแลต ตอบสนองความชอบที่หลากหลายของลูกค้าวัยรุ่น ร้านค้ายังใส่ใจในการตกแต่งขนมหวาน ใช้สีสันที่สะดุดตามากมาย เพื่อสร้างความน่าสนใจบนโซเชียลมีเดีย
ขนมหวานสายรุ้งแสนอร่อย (ที่มา: รวบรวม)
เทรนด์การใช้วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพก็เป็นที่สนใจของร้านขนมหวานหลายแห่ง โดยมีการเพิ่มเมล็ดเจีย นมถั่วเหลืองแทนการใช้นมข้นหวานแบบดั้งเดิม ลดปริมาณน้ำตาลเพื่อให้เหมาะกับผู้ที่ควบคุมอาหารและรักษารูปร่าง ท็อปปิ้งอย่างว่านหางจระเข้และเมล็ดโหระพา (basil) ก็เป็นที่นิยมเลือกใช้เพราะมีคุณสมบัติช่วยคลายร้อนและเสริมสารอาหาร
3.3. คำแนะนำในการเลือกขนมหวานให้ถูกปากลูกค้าแต่ละราย
หากคุณชอบรสหวานอ่อนๆ สดชื่น ขนมหวานแบบดั้งเดิมของไฮฟอง (Hai Phong) เช่น ขนมเมล็ดบัว ขนมถั่วเขียว ขนมเสืองซา (suong sa) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ขนมเหล่านี้ให้ความรู้สึกสบาย คลายร้อน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเลี่ยนแม้จะทานในปริมาณมาก
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติเข้มข้น มันๆ สามารถเลือกขนมจากมะพร้าว (dua dam) ขนมขุกบัค (khuc bach) ใส่นม หรือขนมมันสำปะหลังเหนียวผสมนมสด ขนมเหล่านี้มีรสชาติเข้มข้น สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่พิถีพิถันได้ด้วยการผสมผสานระหว่างนมและส่วนผสมจากธรรมชาติ
คนหนุ่มสาวที่ต้องการสำรวจรสชาติใหม่ๆ ควรลองขนมพุดดิ้งมะม่วง ขนมโมจิห้าสี ขนมขุกบัค (khuc bach) ใส่ไข่มุก ขนมหวานของไฮฟอง (Hai Phong) เหล่านี้ไม่เพียงแต่น่าดึงดูดในด้านรสชาติ แต่ยังตอบสนองความต้องการในการถ่ายรูปด้วยสีสันที่สดใสและสร้างสรรค์ การผสมผสานท็อปปิ้งที่หลากหลายทำให้ขนมแต่ละช้อนเต็มไปด้วยรสชาติและความประหลาดใจที่น่าตื่นเต้น
4. ประสบการณ์และข้อควรทราบเมื่อทานขนมหวานของไฮฟอง (Hai Phong)
ในการหาร้านขนมหวานของไฮฟอง (Hai Phong) ที่มีคุณภาพ คุณสามารถสังเกตจำนวนลูกค้าประจำได้ เพราะนี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าขนมถูกเตรียมสดใหม่ทุกวัน ร้านค้าที่มีชื่อเสียงจะเก็บท็อปปิ้งไว้ในตู้เย็น และจะทำขนมเมื่อลูกค้าสั่งเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจในความอร่อย
คุณสามารถแยกแยะวัตถุดิบที่สดใหม่ได้จากสีตามธรรมชาติ ไม่ปะปนกับกลิ่นแปลกๆ ไข่มุกและวุ้นควรมีความยืดหยุ่นพอดี ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป เนื้อมะพร้าวอ่อนสดจะมีสีขาวขุ่นและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทานขนมหวานของไฮฟอง (Hai Phong) มักจะเป็นช่วงบ่ายตั้งแต่ 15:00 น. ถึง 18:00 น. หรือช่วงเย็นตั้งแต่ 19:00 น. ถึง 21:00 น. ในวันฤดูร้อน ขนมหวานจะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการคลายร้อนได้ทุกเมื่อ คุณสามารถขอให้ร้านปรับความหวานตามที่คุณชอบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังควบคุมอาหารหรือจำกัดน้ำตาล
ร้านขนมหวานของไฮฟอง (Hai Phong) หลายแห่งมีให้บริการบนแอปพลิเคชันจัดส่ง ทำให้คุณสั่งขนมไปส่งถึงที่ได้อย่างง่ายดาย เมื่อซื้อกลับบ้านหรือจัดส่งระยะไกล โปรดขอให้ร้านบรรจุแยกน้ำแข็งและท็อปปิ้ง เพื่อให้ขนมยังคงรสชาติและความสดใหม่เมื่อถึงมือคุณ
นอกจากการเพลิดเพลินกับขนมหวานเย็นฉ่ำของไฮฟอง (Hai Phong) แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางต่อไปสำรวจชีวิตยามค่ำคืนอันคึกคักของเมืองได้ จุดหมายปลายทางที่โดดเด่นแห่งหนึ่งคือ ตลาด VUI-Fest ไฮฟอง (Cho VUI-Fest Hai Phong) ตลาดกลางคืนสมัยใหม่ที่ผสมผสานอาหาร ดนตรี และการช้อปปิ้ง ซึ่งรวบรวมอาหารพื้นเมืองรสเลิศหลายร้อยรายการ พร้อมพื้นที่ถ่ายรูปที่สว่างไสวด้วยแสงไฟ นี่เป็นสถานที่ในอุดมคติสำหรับการทานอาหารค่ำพร้อมๆ กับการดื่มด่ำกับบรรยากาศที่อ่อนเยาว์และคึกคักของผู้คนในเมืองท่า
นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมตลาด VUI-Fest.
นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้โอกาสนี้สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเพิ่มเติม เช่น เกาะกัตบ่า (Cat Ba Island) โดยเดินทางข้ามไปยังเกาะด้วยกระเช้าลอยฟ้า Sun World Cat Ba เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวหลานหะ (Lan Ha Bay) ที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย
เฉ่ไห่ฟอง (Hai Phong Che) ไม่เพียงแต่เป็นของว่างที่คุ้นเคย แต่ยังเป็นตัวแทนของการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมระหว่างประเพณีและความคิดสร้างสรรค์ของอาหารเมืองท่าแห่งนี้ การผสมผสานอย่างชำนาญระหว่างองค์ประกอบดั้งเดิมและนวัตกรรมคือจุดแข็งที่ทำให้ เฉ่ไห่ฟอง (Hai Phong Che) ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งใกล้และไกลมากยิ่งขึ้น อย่าลืมบันทึกรายการร้านเฉ่เหล่านี้ไว้ เพื่อให้ทุกครั้งที่มาเยือนไห่ฟอง (Hai Phong) คุณจะได้มีประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำที่นี่!