1. สุย ดิน ไห่ฟอง คืออะไร?
สุยดิน ไห่ฟง เป็นอาหารจานพิเศษที่น่าสนใจ (ที่มา: รวบรวม)
สุยดิน ไห่ฟง มีต้นกำเนิดจากชุมชนชาวจีนที่อพยพมายังเมืองท่าแห่งนี้ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 อาหารจานนี้เป็นรูปแบบที่ดัดแปลงอย่างมีเอกลักษณ์จากขนมบัวลอยแบบดั้งเดิมของจีน ซึ่งชาวกวางตุ้งนำมาและพัฒนาต่อยอดที่ไห่ฟง
ชื่อ "สุยดิน" มีต้นกำเนิดจากภาษาจีนกวางตุ้ง หมายถึง "ลูกกลมๆ ที่ปรุงในน้ำ" เมื่อเวลาผ่านไป ผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลงการออกเสียง ชื่อนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ผูกพันกับผู้คนในไห่ฟง สุยดินไม่เพียงแต่อร่อยในฐานะของหวาน แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนของการผสมผสานทางอาหารระหว่างชุมชนชาวจีนและชาวเวียดนามในเมืองท่าแห่งนี้
ในขุมทรัพย์อาหารของไห่ฟง สุยดินโดดเด่นในฐานะสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายปี อาหารจานนี้ปรากฏอยู่ทั่วทุกมุมถนน ตั้งแต่แผงลอยริมทางไปจนถึงร้านอาหารประจำครอบครัวที่คุ้นเคย สร้างรสชาติแบบดั้งเดิมที่ยากจะลืมเลือน
2. ส่วนประกอบ วิธีทำ และลักษณะเด่นของสุยดินไห่ฟง
สุ่ย ดิ่น ไห่ฟง คือสุดยอดอาหารดั้งเดิม (ที่มา: รวบรวม)
สุ่ย ดิ่น ไห่ฟง ไม่เพียงเป็นอาหารพื้นบ้าน แต่ยังเป็นสุดยอดอาหารที่สืบทอดมายาวนานหลายชั่วอายุคน จากวัตถุดิบที่คุ้นเคยไปจนถึงวิธีการปรุงที่พิถีพิถัน ทุกรายละเอียดล้วนมีส่วนช่วยสร้างสรรค์รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้รับประทานจดจำไม่รู้ลืม
2.1. ส่วนประกอบหลักที่สร้างสรรค์สุ่ย ดิ่น ไห่ฟง
สุ่ย ดิ่น ไห่ฟง โดดเด่นด้วยการผสมผสานอันประณีตของวัตถุดิบดั้งเดิม แป้งห่อทำจากแป้งข้าวเหนียวหอม เลือกใช้ข้าวเหนียวเม็ดใหญ่ กลม และเหนียวนุ่ม หลังจากแช่น้ำอย่างดี บดละเอียด และกรองให้สะอาดแล้ว นำแป้งข้าวเหนียวมานวดกับน้ำอุ่นผสมเกลือเล็กน้อย เพื่อให้ได้ความนุ่มหนึบที่สมบูรณ์แบบ
ไส้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สร้างรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ งาดำคั่วหอมผสมกับถั่วลิสงคั่วบดหยาบและมะพร้าวขูดสด เติมน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลโตนดเพื่อสร้างรสหวานมันตามธรรมชาติ บางแห่งยังมีการดัดแปลงโดยใช้เมล็ดงาขาวหรือถั่วเขียว เพื่อมอบประสบการณ์รสชาติที่หลากหลาย
น้ำเชื่อมของสุ่ย ดิ่น ก็มีความพิเศษเช่นกัน ขิงสดเคี่ยวเบาๆ กับน้ำตาลโตนดหรือน้ำอ้อย สร้างรสหวานละมุนผสมผสานความเผ็ดร้อนเล็กน้อย เมื่อรับประทาน มะพร้าวขูดเส้นสดและถั่วลิสงคั่วที่โรยด้านบน จะช่วยเพิ่มความเข้มข้นและน่าดึงดูด ทำให้ใครก็ตามที่ได้ลิ้มลองครั้งแรกต้องหลงใหล
2.2. วิธีการปรุงแบบดั้งเดิมและรูปแบบใหม่ๆ
การปรุง สุ่ย ดิ่น ไห่ฟง ตามสูตรดั้งเดิมต้องอาศัยความชำนาญและความอดทน หลังจากนวดแป้งข้าวเหนียวให้นุ่มแล้ว ผู้ปรุงจะแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-4 ซม. ก้อนแป้งจะถูกแผ่แบน ใส่ไส้ตรงกลาง จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมอย่างชำนาญเพื่อปิดไส้ให้มิด ป้องกันไม่ให้ไส้ทะลักออกมาขณะต้ม
เมื่อปรุง สุ่ย ดิ่น ก้อนจะถูกใส่ลงในน้ำเดือด ต้มจนลอยขึ้นมาบนผิว จากนั้นตักขึ้นแช่น้ำเย็นเพื่อรักษาความเหนียวนุ่มและป้องกันไม่ให้แตก น้ำเชื่อมขิงจะถูกเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ปรุงรสพอเหมาะ สร้างรสชาติเผ็ดร้อน หวานละมุนอันเป็นเอกลักษณ์
ปัจจุบันนี้ ร้านค้าหลายแห่งในไห่ฟงได้สร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้นสำหรับเมนูสุ่ย ดิ่น นอกเหนือจากไส้แบบดั้งเดิม ผู้รับประทานสามารถลิ้มลองไส้เผือกม่วง ถั่วเขียว หรือช็อกโกแลต บางแห่งยังใช้ใบย่าติง ดอกอัญชัน เพื่อสร้างสีสันตามธรรมชาติให้กับแป้งห่อ ทำให้เมนูดูน่ารับประทานและน่าสนใจยิ่งขึ้น
3. การแยกแยะสุ่ย ดิ่น ไห่ฟง กับ บั๋น จ๋อย เต่า
ไส้งาดำอันน่าดึงดูดของซุปดินไห่ฟอง (ที่มา: รวบรวม)
แม้ว่าจะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่คล้ายคลึงกัน แต่ซุปดินไห่ฟองและบันจั่วต่าวก็มีรสชาติและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ความแตกต่างอันละเอียดอ่อนในส่วนผสม วิธีการปรุง และประสบการณ์ในการรับประทาน ทำให้เกิดลักษณะเฉพาะตัวที่แยกแยะได้ยากของแต่ละจาน
3.1. การเปรียบเทียบไส้ขนมและน้ำเชื่อม
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าซุปดินไห่ฟองและบันจั่วต่าวเป็นคนละเมนู แต่จริงๆ แล้วเป็นเมนูเดียวกัน บันจั่วต่าวมีต้นกำเนิดจากประเทศจีน เมื่อนำเข้ามาในเวียดนาม ได้รับการดัดแปลงให้เข้ากับรสชาติของคนเวียดนาม เมื่อเวลาผ่านไป อาหารจานนี้ถูกเรียกด้วยชื่อต่างๆ กันไปในแต่ละภูมิภาค โดยซุปดินไห่ฟองเป็นเวอร์ชันที่มีลักษณะเฉพาะถิ่นโดดเด่น ด้วยรสหวานมัน เผ็ดร้อนของขิง และกลิ่นหอมมันของงาและถั่วลิสงคั่ว
ไส้ของซุปดินประกอบด้วยงาดำ ถั่วลิสงคั่ว และมะพร้าวขูดเป็นหลัก ทำให้มีรสชาติมันอร่อยเป็นเอกลักษณ์ ในทางตรงกันข้าม บันจั่วต่าวส่วนใหญ่มักใช้ไส้ถั่วเขียว บางครั้งอาจมีงาเล็กน้อย แต่ไม่เข้มข้นเท่าซุปดิน ขนาดก็แตกต่างกัน: ซุปดินมีขนาดเล็ก ประมาณ 2–4 ซม. ส่วนบันจั่วต่าวมีขนาดใหญ่กว่าและนุ่มกว่าเมื่อรับประทาน
3.2. เมื่อไหร่ควรเลือกซุปดิน เมื่อไหร่ควรกินบันจั่วต่าว?
การได้ลิ้มลองซุปดินไห่ฟองในช่วงบ่ายที่อากาศเย็นสบายใจกลางเมืองท่า นำมาซึ่งความอบอุ่นและความสบายใจทั้งกายและใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากท่องเที่ยวสำรวจมาทั้งวัน รสชาติเผ็ดเล็กน้อยของขิง ผสมผสานกับไส้งาที่มันอร่อย ทำให้ลูกค้าพึงพอใจตั้งแต่คำแรก
ในทางตรงกันข้าม บันจั่วต่าว มักจะเสิร์ฟเป็นของหวานเบาๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมื้ออาหารครอบครัวหรืองานเทศกาลต่างๆ ไส้ถั่วเขียวผสมกับกะทิ ให้ความรู้สึกสดชื่น หวานละมุน แต่ยังคงความเบา ไม่เลี่ยน
เมื่อมาถึงไห่ฟอง นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดโอกาสลิ้มลองซุปดินที่ร้านดัง เช่น ดงซุง กี๊ด่ง หรือ เกาเดา เพื่อสัมผัสรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์อย่างเต็มที่ ในฮานอย ร้านบันจั่วต่าวเก่าแก่ในย่านเมืองเก่าจะมอบประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ช่วยให้คุณแยกแยะความแตกต่างของอาหารพื้นเมืองสองชนิดนี้ได้อย่างชัดเจน
4. คุณค่า การรับรู้ และความหมายพิเศษของซุปดินไห่ฟอง
Sui Din Hai Phong มีความหมายลึกซึ้งในวัฒนธรรมอาหารของเมืองท่า (ที่มา: รวบรวม)
Sui Din Hai Phong ไม่ใช่แค่อาหารพื้นบ้าน แต่ยังแฝงไว้ด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม อารมณ์ และความหมายอันลึกซึ้ง ทุกชามของ sui din ร้อนๆ ไม่เพียงแต่ชวนให้นึกถึงรสชาติอร่อย แต่ยังมอบความรู้สึกอบอุ่น คุ้นเคย ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของการรวมญาติและความสุขในวัฒนธรรมอาหารของเมืองท่า
4.1. สัมผัสรสชาติ: มัน หอม เผ็ดร้อน หอมน้ำขิง
เมื่อได้ลิ้มลอง sui din Hai Phong ชามร้อนๆ กลิ่นหอมที่ลอยมาจากไอน้ำทำให้ผู้ทานรู้สึกอบอุ่นทันที ลูกชิ้นแป้งนุ่มหนึบ ละลายในปาก ผสมผสานกับรสชาติมัน หอม ของงาคั่ว ถั่วลิสง และมะพร้าวขูด สร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ประณีต ไส้ขนมพอดีคำ ไม่หวานเกินไป สมดุลกับรสชาติโดยรวมอย่างสมบูรณ์แบบ
จุดเด่นของอาหารอยู่ที่น้ำขิงร้อนๆ ที่มีความเผ็ดเล็กน้อยค่อยๆ ซึมซาบ มอบความรู้สึกสบายและอบอุ่นท้อง น้ำตาลมะพร้าวถูกปรุงอย่างชำนาญ หวานพอดี ผสมผสานกับขิงสดเพื่อสร้างรสชาติเข้มข้นโดยไม่เลี่ยน
Sui Din Hai Phong ทำให้ผู้ทานหลงใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลิ้มลอง กลายเป็นอาหารที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสำรวจอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองท่า
4.2. ความหมายและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับ sui din Hai Phong
Sui Din Hai Phong ไม่ใช่แค่อาหารพื้นบ้าน แต่ยังแฝงไว้ด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์ ความสุข และความอุดมสมบูรณ์ของชุมชนชาวจีนในเมืองท่า ตามความเชื่อโบราณ การรับประทาน sui din เป็นประจำจะนำมาซึ่งโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตประจำวัน
ในโอกาสเทศกาลสำคัญ เช่น ตรุษจีน เทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือวันรำลึกถึงบรรพบุรุษ sui din มักปรากฏอยู่บนโต๊ะอาหารในฐานะอาหารอันเปี่ยมความหมาย สีขาวบริสุทธิ์ของแป้งห่อหุ้มเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ในขณะที่ไส้ขนมเป็นตัวแทนของความสมบูรณ์และความครบถ้วน การถวาย sui din ยังถือเป็นการอธิษฐานขอความสงบสุข ความเจริญรุ่งเรือง และความสุขแก่ครอบครัว
ปัจจุบัน Sui Din Hai Phong ไม่เพียงแต่มีบทบาททางจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ยังเป็นสายใยที่เชื่อมโยงผู้คนต่างรุ่นในครอบครัวอีกด้วย หลายๆ แม่ยังคงถ่ายทอดวิชาการทำ sui din ให้แก่ลูกหลาน สร้างช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นของการรวมญาติ และมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองท่า
5. สุดยอดร้าน sui din Hai Phong อร่อยปี 2025
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของอาหารอุ่นๆ หอมกรุ่นในฤดูหนาว Sui Din Hai Phong คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน นี่คือรายชื่อร้าน sui din ที่อร่อยที่สุดในปี 2025 ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างสูงจากคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวด้วยรสชาติต้นตำรับ ราคาที่สมเหตุสมผล และบรรยากาศที่เป็นกันเอง
5.1. ร้าน sui din Dong Dung อันโด่งดังใน Hai Phong
ร้านสุ่ยดินดงดุงเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก (ที่มา: รวบรวม)
ที่อยู่: ตั้งอยู่ที่เลขที่ 163 ถนนเกา ดัต เมืองไฮฟอง
เวลาเปิดทำการโดยประมาณ: 9:00 น. – 21:00 น.
ราคาโดยประมาณ: 15,000 เวียดนามดอง/ชาม
ร้านสุ่ยดินดงดุงตั้งอยู่ที่เลขที่ 163 ถนนเกา ดัต เป็นร้านสุ่ยดินชื่อดังที่ชาวไฮฟองชื่นชอบ ร้านเปิดตั้งแต่ 9:00 น. ถึง 21:00 น. ในราคาเพียง 15,000 เวียดนามดองต่อชาม เกี๊ยวสุ่ยดินแต่ละชิ้นถูกปั้นด้วยมือ รักษาสภาพความนุ่มหนึบและรูปทรงที่สวยงามสม่ำเสมอ
จุดเด่นของดงดุงคือน้ำขิงที่ปรุงจากขิงสดซาปา ให้รสเผ็ดร้อนอ่อนๆ ไส้ขนมผสมผสานงาดำเมืองเหงะอาน ถั่วลิสงคั่วเมืองไฮเซือง และมะพร้าวขูดสด ให้รสชาติมันอร่อยกลมกล่อม บรรยากาศร้านเรียบง่ายแต่ก็มีลูกค้าแน่นขนัดเสมอ โดยเฉพาะช่วงบ่ายวันหยุดสุดสัปดาห์
5.2. สุ่ยดินกีด่ง
ที่อยู่: ตั้งอยู่ที่เลขที่ 34 ถนนกีด่ง เมืองไฮฟอง
เวลาเปิดทำการโดยประมาณ: 18:00 น. – 22:00 น.
ราคาโดยประมาณ: 10,000 – 15,000 เวียดนามดอง/ชาม
ร้านสุ่ยดินกีด่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 34 ถนนกีด่ง เปิดตั้งแต่ 18:00 น. ถึง 22:00 น. ในราคาชามละ 10,000 ถึง 15,000 เวียดนามดอง จุดเด่นของร้านคือน้ำเชื่อมขิงแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาสามรุ่น ให้รสหวานละมุนและเผ็ดร้อนอ่อนๆ
สุ่ยดินที่กีด่งมีขนาดเล็กน่ารัก แป้งบางนุ่มและไส้เข้มข้น รับประกันความสดใหม่เพราะขนมแต่ละชุดจะถูกต้มแยกกัน นักท่องเที่ยวควรแวะร้านแต่เนิ่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการรอคอย โดยเฉพาะช่วงเย็นวันหยุดสุดสัปดาห์
5.3. สุ่ยดินโกอูต – เกา ดัต

ร้าน Sủi Dìn Cô Út เป็นที่คุ้นเคยของคนท้องถิ่น (ที่มา: รวบรวม)
ที่อยู่: ตั้งอยู่ที่ถนน cau dat เขต ngo quyen เมือง haiphong
เวลาเปิดทำการโดยประมาณ: 10:00 – 22:00 น.
ราคาโดยประมาณ: 15,000 VND/ชาม
ร้าน Sủi Dìn Cô Út ตั้งอยู่บนถนน cau dat เขต ngo quyen เปิดให้บริการตั้งแต่ 10:00 น. ถึง 22:00 น. ในราคา 15,000 VND ต่อชาม ลูกซุปดินแต่ละลูกทำด้วยมือโดยคุณ Út ปั้นได้ขนาดสม่ำเสมอ สวยงาม และคงความเหนียวนุ่มหอมกรุ่นไว้ได้อย่างครบถ้วน
จุดเด่นของร้านคือท็อปปิ้งที่หลากหลาย เช่น มะพร้าวขูดสด ถั่วลิสงคั่ว และบางครั้งเติมกะทิเพื่อเพิ่มความหอมมันน่ารับประทาน บรรยากาศร้านเรียบร้อย สะอาด เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นที่ต้องการลิ้มลองรสชาติซุปดินแบบดั้งเดิมของ haiphong
5.4. ร้านขนมซุปดิน to hieu
ที่อยู่: ตั้งอยู่ในย่านหอพัก 5 ชั้น บนถนน to hieu เมือง haiphong
เวลาเปิดทำการโดยประมาณ: 8:00 – 22:30 น.
ราคาโดยประมาณ: 15,000 VND/ชาม
ร้านซุปดิน to hieu ตั้งอยู่ที่ย่านหอพัก 5 ชั้น บนถนน to hieu เปิดให้บริการตั้งแต่ 8:00 น. ถึง 22:30 น. ในราคา 15,000 VND ต่อชาม ด้วยประสบการณ์เกือบ 20 ปี ร้านนี้โดดเด่นด้วยการคงสูตรดั้งเดิมของชาวจีนไว้ ทำให้ได้รสชาติเข้มข้น ยากจะลืมเลือน
น้ำขิงมีสีเหลืองอำพันอันเป็นเอกลักษณ์ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ เพื่อรักษากลิ่นหอมละมุนไว้ ไส้ขนมผสมงาดำและถั่วลิสงในอัตราส่วนที่เหมาะสม สร้างรสชาติมันอร่อยที่สมดุล ขนมเสิร์ฟร้อนๆ น่ารับประทานเป็นพิเศษในวันที่อากาศเย็น เป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหาร haiphong
5.5. ร้านซุปดิน – hang kenh haiphong
ที่อยู่: ตั้งอยู่ที่เลขที่ 274 ถนน hang kenh เมือง haiphong
เวลาเปิดทำการโดยประมาณ: 14:00 – 23:00 น.
ราคาโดยประมาณ: 10,000 – 20,000 VND/ชาม
ร้านซุปดิน เลขที่ 274 hang kenh เปิดให้บริการตั้งแต่ 14:00 น. ถึง 23:00 น. ราคาตั้งแต่ 10,000 ถึง 20,000 VND ต่อชาม พื้นที่กว้างขวาง โปร่งสบาย มอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าขณะรับประทานอาหาร
นอกจากเวอร์ชันดั้งเดิมแล้ว ร้านยังมีซุปดินไส้เผือก ถั่วเขียวหลากสีสันน่ารับประทานอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในราคา 20,000 VND ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์ชามซุปดินท็อปปิ้งหลากหลายที่ผสมผสานกับน้ำขิงรสเข้มข้น สร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ นี่คือสถานที่ในอุดมคติสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจการสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ของซุปดิน haiphong
6. วิธีทำซุปดิน haiphong เองที่บ้านตามสูตรต้นตำรับ
วิธีทำสุ่ยดินไฮฟองค่อนข้างง่าย (แหล่งที่มา: รวบรวม)
หากคุณชื่นชอบรสชาติหวานอบอุ่นของ สุ่ยดินไฮฟอง (Sui Din Hai Phong) และต้องการทำเองที่บ้าน การปรุงอาหารจานนี้ก็ไม่ยากเลย เพียงเตรียมวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง คุณจะสามารถสร้างสรรค์สุ่ยดินที่เหนียวนุ่ม หอมกรุ่น รสขิงเผ็ดร้อน – รสชาติดั้งเดิมแท้ๆ ของไฮฟอง
6.1. คำแนะนำขั้นตอนการปรุงสุ่ยดินไฮฟองแบบดั้งเดิม
ในการทำ สุ่ยดินไฮฟอง (Sui Din Hai Phong) เองที่บ้าน ขั้นตอนแรกคือการเลือกข้าวเหนียวเมล็ดกลมที่มีกลิ่นหอม แช่ในน้ำเกลือเจือจางประมาณ 4–6 ชั่วโมง แล้วบดให้ละเอียดเป็นแป้ง แป้งข้าวเหนียวจากนั้นนำมาผสมกับน้ำอุ่นในอัตราส่วนที่เหมาะสม นวดให้เข้ากันจนเนียนนุ่ม ไม่ติดมือ และปั้นง่าย
ไส้ขนมประกอบด้วย งาดำคั่วหอมบดละเอียด ถั่วลิสงคั่วบดหยาบเพื่อคงความกรุบกรอบ และมะพร้าวขูดสดคลุกเคล้ากับน้ำตาล เคี่ยวไฟอ่อนๆ จนส่วนผสมเข้ากันดี ปรุงรสหวานตามชอบ เมื่อปั้นขนม ให้แบ่งแป้งเป็นก้อนเท่าๆ กัน กดแบน ใส่ไส้ตรงกลางแล้วปั้นให้มิดชิด เพื่อให้แน่ใจว่าไส้ไม่ทะลักออกมาขณะต้ม ขนมจากนั้นนำลงต้มในน้ำเดือด ต้มจนลอยขึ้น แล้วตักขึ้นแช่น้ำเย็นเพื่อคงความเหนียวนุ่มสมบูรณ์แบบ
6.2. ข้อควรจำในการปรุงและเก็บรักษาที่บ้าน
เพื่อให้ สุ่ยดินไฮฟอง (Sui Din Hai Phong) ที่ทำเองคงรสชาติดั้งเดิมไว้ได้อย่างครบถ้วน ผู้ปรุงควรใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงวิธีการเก็บรักษาหลังปรุง เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ แต่สำคัญเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้ผลงานที่อร่อย นุ่มเหนียว และรสชาติเหมือนร้านค้า
เมื่อทำ สุ่ยดินไฮฟอง (Sui Din Hai Phong) เองที่บ้าน การเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่เป็นสิ่งสำคัญ ข้าวเหนียวควรเลือกเมล็ดที่สม่ำเสมอ ใหม่ ไม่ขึ้นรา เพื่อให้ขนมเหนียวนุ่ม งาดำและถั่วลิสงต้องคั่วให้เหลืองสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการไหม้ เพื่อคงกลิ่นหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์
น้ำเชื่อมขิงปรุงอย่างระมัดระวังด้วยขิงสดที่ปอกเปลือกและทุบแล้ว เคี่ยวกับน้ำตาลด้วยไฟอ่อนประมาณ 15–20 นาที ไม่ควรเคี่ยวนานเกินไปเพื่อไม่ให้น้ำเชื่อมข้นเกินไป และยังคงรสเผ็ดร้อนอ่อนๆ ของขิงไว้
สำหรับการเก็บรักษา หลังต้ม สุ่ยดินควรถ่ายน้ำเย็น จากนั้นเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาเพื่อใช้ภายใน 1–2 วัน น้ำเชื่อมขิงเก็บแยกต่างหากและอุ่นก่อนรับประทาน เมื่อจะรับประทาน เพียงตักขนมใส่ชาม ราดด้วยน้ำขิงร้อน และโรยหน้าด้วยท็อปปิ้งที่ชอบ เพื่อสัมผัสรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ สุ่ยดินไฮฟอง (Sui Din Hai Phong) อย่างเต็มที่
7. เคล็ดลับการรับประทานสุ่ยดินไฮฟองสำหรับนักท่องเที่ยว
เดินทางไปยังเกาะกัตบ่าด้วยกระเช้าลอยฟ้าซันเวิลด์ (ที่มา: รวบรวม)
เมื่อลิ้มลอง ซุยดิน ไห่ฟอง นักท่องเที่ยวควรทราบเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประสบการณ์ที่สมบูรณ์และสะดวกสบาย
ร้านค้าที่มีชื่อเสียงมักจะคึกคักในช่วงเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นจึงควรไปแต่เนิ่นๆ หรือติดต่อล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการรอนาน
เวลาที่เหมาะที่สุดในการลิ้มลองคือประมาณ 15:00–17:00 น. หรือหลัง 21:00 น. เมื่อบรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลายยิ่งขึ้น
หากเป็นครั้งแรกที่ทานซุยดิน ควรสั่งในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อสัมผัสรสชาติหอมอร่อยอย่างเต็มที่
สำหรับผู้ที่แพ้ถั่วลิสง งา หรือมะพร้าว ควรสอบถามส่วนผสมอย่างละเอียดก่อนสั่ง
นอกจากอาหารแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถรวมการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นรอบๆ ไห่ฟอง ข้อเสนอที่น่าสนใจคือการเดินทางไปยังเกาะกัตบ่าด้วยกระเช้าลอยฟ้าซันเวิลด์ ใช้เวลาเพียงประมาณ 15 นาทีจากแผ่นดินใหญ่ ทั้งรวดเร็วและมีโอกาสชม อ่าวหลานฮา เกาะหินปูนที่ขรุขระและท้องฟ้าสีคราม บนเกาะ คุณสามารถอาบแดด พายเรือคายัค เข้าร่วมกิจกรรมกีฬาทางน้ำ และลิ้มลองอาหารท้องถิ่นพร้อมอาหารทะเลสดใหม่ของ กัตบ่า
ท่ามกลางอากาศเย็นสบายในช่วงปลายปี ซุยดิน ไห่ฟอง คือของขวัญอันอบอุ่นที่ใครได้ลิ้มลองก็ยากจะลืมเลือน
รสชาติหอมนุ่มของแป้งข้าวเหนียว ความหวานละมุนของน้ำขิง และความมันหอมของงาคั่ว ผสมผสานกันสร้างเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ให้กับอาหารพื้นบ้านจานนี้
หากมีโอกาสมาเยือนเมืองท่าในช่วงฤดูใบไม้ร่วง – ฤดูหนาว อย่าลืมลิ้มลอง ซุยดิน ไห่ฟอง เพื่อสัมผัสแก่นแท้ของอาหารและวัฒนธรรมที่เรียบง่ายและใกล้ชิดของผู้คนในท้องถิ่นอย่างเต็มที่